การศึกษา

ประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่เนเธอร์แลนด์ครั้งแรกของ Ayden Wai Htet นักศึกษานานาชาติ ม.รังสิต

          โครงการแลกเปลี่ยน อีกหนึ่งโครงการที่เป็นโอกาสที่ดีในการขยายขอบเขตทางการศึกษาและสร้างประสบการณ์ระหว่างประเทศให้แก่นักศึกษา ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยรังสิต และ HZ University of Applied Sciences ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่มีระยะเวลา 5 เดือน นักศึกษาจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ฝึกฝนทักษะการใช้ชีวิต ขยายมุมมองของตนเอง และยังได้ทำความรู้จักโลกที่กว้างใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการทำงานในอนาคต

Ayden Wai Htet นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชา International Business วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกกับเราว่า เธอเคยเดินทางท่องเที่ยวไปหลายแห่ง และที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยได้มีโอกาสไปประเทศฝั่งยุโรปเลย ดังนั้นเธอจึงรีบคว้าโอกาสไว้ทันทีที่ได้ยินเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนที่ HZ University of Applied Sciences ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งประเทศนี้ก็เปรียบเสมือนศูนย์กลางของทวีป เธอรู้สึกตื่นเต้นมากๆ  และมองว่านี่คือเหตุผลที่เพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ เพื่อไปสำรวจโลกอีกด้านหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจทวีปใหม่ๆ นอกจากนี้เธอยังได้รับทุนการศึกษามากถึง 1,500 ยูโร ซึ่งทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตมหาลัยในต่างประเทศได้อย่างมั่นคง

ในส่วนของการเตรียมความพร้อม สิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกคือการหาที่พัก ซึ่งต้องจองห้องพักล่วงหน้า 2-3 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าเธอมีที่พักอาศัยอย่างแน่นอน อย่างที่สองคือการขอประกันนักเรียน ซึ่งรวมไปถึงประกันสุขภาพและการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยจึงควรมีใบอนุญาติให้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ที่นั่นด้วย และอย่างสุดท้ายคือวีซ่าและเอกสารต่างๆเพราะการเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนจะต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน การเตรียมสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อการได้ใช้ชีวิตมหาลัยในต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย

หลังจากที่เธอมาถึงที่นี่ เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวดัตช์ เช่น อาหารที่พวกเขานิยมรับประทาน (โดยเฉพาะขนมปัง) สภาพอากาศที่นี่มีทั้งลมและฝน เธอเล่าว่า แม้ว่าเธอจะอยู่ภายในตึกที่ปิดอยู่ก็ยังคงได้ยินเสียงลมพัดจากด้านนอก ที่นี่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นสุดขั้ว แม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าหนาๆอยู่หลายชั้น แต่ก็ยังรู้สึกถึงความหนาวจัด ตอนที่เธอปั่นจักรยานไปมหาวิทยาลัย มือของเธอทั้งแดงและชา และมีใบหน้าที่เย็นเฉียบ ทำให้บางครั้งเธอก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจะเป็น Hypothermia (ภาวะตัวเย็นเกิน) หรือบาดเจ็บเพราะอากาศหนาวจัดหรือเปล่า เธอเล่าเพิ่มอีกว่า เธอได้รับความช่วยเหลือในเรื่องของค่าครองชีพเป็นระยะเวลา 2 เดือน และตอนนี้เธอกำลังมุ่งเน้นไปที่การตามงานของมหาลัยให้ทัน เพราะกลุ่มของเธอได้เริ่มทำงานในโครงการนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่แล้ว เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่นี่และทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ อีกมากมาย ทั้งในระดับนานาชาติและในท้องถิ่น ทุกคนที่นี่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษได้ และเธอได้มีโอกาสร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับพวกเขาที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

เธอทิ้งท้ายไว้ว่า “ถ้าคุณมีโอกาสก็ลุยเลย ใช้ชีวิตวัยเรียนให้คุ้มค่า มันไม่มีอะไรที่จะต้องเสีย คุณจะได้เรียนรู้หลายอย่างจากการพบปะกับผู้คนมากมายที่มีความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ก็แค่เชิงทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งมันจะไม่มีความหมายเลย ถ้าขาดการปฏิบัติจริงไป คุณจะไม่มีวันเรียนรู้ว่าชีวิตที่แท้จริงเป็นอย่างไร คนส่วนใหญ่จะกังวลเกี่ยวกับการเงินและการใช้จ่าย ซึ่งฉันเข้าใจเรื่องนั้นดี ทุกคนต้องใช้จ่ายไปกับสิ่งจำเป็นทั่วไป ด้วยงานและความรับผิดชอบอื่นๆ ของการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในอนาคต คุณคงแทบจะไม่มีเวลาเหลือที่จะออกไปเที่ยวที่ไหน ฉันหวังว่าทัศนคติของฉันจะได้รับการยอมรับ ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่แต่ใน Comfort Zone หรืออยู่แต่ในบ้าน ชีวิตของคุณก็ไม่ต่างอะไรกับปลาในตู้กระจก เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วมองย้อนกลับไป คุณอาจเสียใจที่ไม่ได้ออกไปเผชิญโลกกว้าง ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ แล้วคุณจะได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่แท้จริงเป็นอย่างไร”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *